Tuesday, May 10, 2005

บทสรุปบทความทั้ง 4

ซึ่่งทั้งหมดเป็นของ ไมเคิล ไรท์ ที่เขียนลงในมติชนสุดสัปดาห์ เป็นบทความที่น่าสนใจนำมาวิเคราะห์ต่ออย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศาสนาหรือประวัติศาสตร์ ซึ่งมีึความเีกี่ยวพันกัน อย่างแยกไม่ออก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า ผมไม่เชื่อว่าประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ เขียนขึ้นมาโดยไม่มีอคติ ดังนั้น การศึกษาประวัิติศาสตร์ โดยเฉพาะ ในระบบการศึกษาไทย ย่อมกลายเป็น การศึกษาอคติ ของผู้เีขียนหรือแต่งประวัติศาสตร์นั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ว่าใครจะเขียนหรือแต่ง รัฐมีส่วนรู้เห็น และอนุญาต ทำให้ ไม่สามารถ เชื่อได้ว่า รัฐมีความจริงใจกับประชาชน พลเมือง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อย่ามาเรียกว่าราษฎรเป็นอันใช้ได้ เพราะผมไม่ใช่สมบัติของใคร ...... อีกส่วนหนึ่ง คือเรื่องของศาสนา และความจริงที่ว่า จำนวนคนที่ไม่นับถือศาสนา มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน โดยที่ ไม่สามารถกล่าวได้ว่า คนที่ไม่นับถือศาสนานั้น เป็นคนไม่ดี เพราะโดยส่วนตัว ผมเป็นคนหนึ่ง ที่กล้าพูดเต็มปากว่า ไม่ได้นับถือศาสนา และคิดว่าศาสนาเป็นเครื่องมือของชนชั้น ในการปกครอง รวมถึงเป็นเครื่องมืออื่นๆตามแต่ ผู้ใดคิดจะใช้ประโยชน์จากศาสนานั้นๆ การศึกษาศาสนาอย่างเป็นกลาง ทำให้เราค้นพบทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของศาสนา แต่ไม่อาจสรุปได้ว่า ศาสนาคือความจริง .......... เพราะเราคงต้องมานิยามกันว่า ความจริงคืออะไร แล้วความจริงของอะไรที่เป็นความจริงบ้าง รวมถึงถ้ามีซักศาสนานึง ที่เป็นความจริง แล้วศาสนาอื่นๆหล่ะ เราจะมีความจริง ที่ขัดแย้งกันได้จริงๆน่ะหรือ เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่านำมาขบคิดมาก